[แปล] ”เหตุใด...ปรากฏการณ์เคป๊อป BTS ถึงสามารถทำลายสถิติไปได้ครั้งแล้ว ครั้งเล่า” - GRAMMYs


"“ตัวเลขทางสถิตินั้นไม่เคยโกหก ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขจากยอดขายแผ่น ตัวเลขการจากยอดขายบัตรคอนเสิร์ต ตัวเลขจากยอดสตรีม เนื้อเพลงที่สื่อถึงการรู้จักตัวเอง และฐานแฟนคลับอันร้อนแรง สิ่งเหล่านี้กำลังชี้ว่า BTS ได้เริ่มก้าวเข้าสู่ความสำเร็จในการสร้างประวัติศาสตร์ในอเมริกาและทั่วโลก”"


เขียนโดย  ANA YGLESIAS I GRAMMYS I FEB 22, 2019
แปลไทยโดย: Love Inside Out 
แก้ไขและเรียบเรียงโดย: January The Third (@tt_kittiya)
 
BTS สตาร์ทั้งเจ็ดคน: เจโฮป จิน วี จองกุก จีมิน ชูก้า และ RM ได้สร้าง “กองทัพ ARMY” ที่มาจากแฟนๆทั่วโลกขึ้นมาอย่างเป็นทางการ ในขณะที่พวกเขายังคงเดินหน้าทำลายสถิติครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกอย่างก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆว่าพวกเขา “ไททันแห่ง KPOP” เป็นตัวแทนหลักที่แสดงถึงเส้นทางและทิศทางที่เพลงป๊อปกระแสหลัก-โดยเฉพาะเพลงป็อปอเมริกัน-กำลังมุ่งไป
 
ในปัจจุบันนั้นเป็นที่แน่นนอนแล้วว่า K-pop ไม่ใช่อะไรที่ “ใหม่” อีกต่อไป เพราะกระแสของเคป๊อปนั้นมีมาตั้งแต่ยุค 90's ถ้างั้นอะไรคือสิ่งที่ทำให้อเมริกาเกิดความคลั่งไคล้ใน BTS ล่ะ? บทความนี้จะเผยถึง 5 เหตุผลหลักที่ทำให้วงนี้มีความโดดเด่นและแตกต่าง และทำไมกระแสความความคลั่งไคล้ในตัวพวกเขาถึงไม่มีวี่แววที่จะแผ่วลงในเวลาอันใกล้นี้แต่อย่างใด


1. BTS ท้าทายกับความคาดหวัง...
 
เมื่อพิจารณาถึงกระแสในอุตสาหกรรมเพลง ณ ตอนนี้ หากมองเผินๆแล้วก็จะดูเป็นเรื่องง่ายที่จะเขียนว่า BTS เป็นอีกหนึ่งในกระแสดนตรีที่มาแบบชั่วครั้งชั่วคราว แต่นั่นเป็นการประเมินพลังของ BTS ที่สามารถเชื่อมโยงกับผู้ฟังต่ำเกินไป: ไม่เพียงแค่การส่งเมสเสจอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอจากอัลบั้มของพวกเขาที่เข้าถึงหัวข้อสำคัญ ๆ เช่น การรักตัวเอง หรือเรื่องราว(ในแต่ละอัลบั้ม)ที่มีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น เมื่อปีที่แล้ว Love Yourself ทัวร์ก็รองรับผู้คนจนเต็มอารีน่าต่างๆจากทั่วโลก

แค่ในอเมริกาเหนือ...หนุ่มๆได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตด้วยกันถึง 8 เมือง (15 รอบการแสดง) บัตรชมคอนเสิร์ตของพวกเขาที่ Staples Centre ในลอสแองเจลิส ทั้ง 4 รอบถูกขายหมดเกลี้ยง ซึ่งแต่ละรอบมีความจุถึง 21,000 ที่นั่ง หรือจะเป็นคอนเสิร์ตในระดับสเตเดี้ยมครั้งแรกของพวกเขาในสหรัฐอเมริกาที่ Citi Field ในนิวยอร์กที่รองรับแฟนๆกว่า 40,000 คน ก็เป็นอีกหนึ่งโชว์ที่ขายบัตรหมดเกลี้ยงเช่นกัน

นอกเหนือจากนั้น BTS ได้แสดงความชัดเจนในการทดลองแนวทางของ K-Pop และ Boy Band ในรูปแบบความสุนทรีย์ใหม่ๆ รวมถึงการผสมผสานแนวเพลงในแบบต่างๆ และทำลายความคาดหวังทุกอย่างที่ถูกกำหนดไว้ พวกเขาท้าทายบรรทัดฐานทางเพศและแหวกแนวคิดอันล้าสมัยของป็อปสตาร์ชายผ่านแฟชั่นและงานเพลง

LA Time ได้มีการรีวิวคอนเสิร์ต BTS ในส่วนนี้ว่า “มันน่าตื่นเต้นที่ได้เห็นพวกเขาท้าทายกรอบความคิดเดิมๆเกี่ยวกับเรื่องเพศผ่านทางการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายที่หลากหลายบนเวทีคอนเสิร์ต เช่น เสื้อแขนยาวสีขาวที่มีชายระบาย ตลอดจนชุดวอร์มทรงหลวมๆ (baggy tracksuit) รวมไปถึงการแสดงและการโต้ตอบที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานบนเวที” ในประเด็นนี้ คุณ Mikael Wood นักวิจารณ์เพลงป๊อปได้กล่าวเสริมว่า “ผลตอบรับที่ได้กลับมาคือที่การทำลายกรอบภาพลักษณ์เดิมๆที่พวกเราคาดหวังกันว่านักร้องชายสุดหล่อควรจะเป็น และการแสดงออกที่แตกต่างอย่างชัดเจนเหล่านี้ของพวกเขาได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นจากเหล่าผู้ชมที่มีความหลากหลายใน Staples Center”
_________________________
 
2....และผสมผสานศิลปะดนตรีชนิดต่างๆได้อย่างงดงาม
 
นอกจากนี้ Jon Caramanica นักวิจารณ์เพลงป็อปมากประสบการณ์จาก New York Times ได้สรุปในรีวิวคอนเสิร์ตของ BTS ที่นิวยอร์คไว้อย่างชัดเจนว่า “ดนตรีของ BTS นั้นเป็นมากกว่าดนตรีบับเบิลกัมป๊อป* ที่ออกจะเบาๆใสๆ อัลบั้ม Love Yourself – Tear และ Love Yourself Answer นั้นแสดงให้เห็นว่า BTS มีการใช้เสียงดนตรีที่มีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น มีตั้งแต่ดนตรีแบบ Chainsmokers-esque EDM-pop, 1990s R&B, ดนตรีฮิปฮอปจากนิวยอร์คและทางใต้ และแนวดนตรีอีกหลายประเภท และเมื่อพิจารณาถึงความเป็นนักร้องและแรปเปอร์ สมาชิกในวงล้วนมีความสามารถทางด้านนี้ และหากพิจารณาในแง่ของการเต้นและการแสดงโชว์ พวกเค้าล้วนมีความปราดเปรียวและคล่องแคล่ว ดังนั้นการแสดงในคอนเสิร์ตของพวกเขาจึงผ่อนคลายและมีความเป็นธรรมชาติ"

*ดนตรีแนวบับเบิลกัมป๊อป = ดนตรีจังหวะสนุกสนาน สดใส ที่เน้นกลุ่มผู้ฟังที่เป็นวัยรุ่น
_________________________
 
3. สมาชิกทั้ง 7 คนล้วนมีความสามารถเฉพาะตัวที่นำเสนอให้กับวง
 
หากมองเผินๆการมีสมาชิกถึง 7 คนอาจฟังดูเยอะสำหรับวงที่ไม่ได้เล่นเครื่องดนตรี แต่ จิน วี จองกุก จีมิน เจโฮป ชูก้า และ RM ต่างก็มีบทบาทสำคัญในการทำให้ BTS กลายเป็น BTS ในแบบทุกวันนี้ พวกเขามีการแบ่งหน้าที่ด้านแรปและร้องมาตั้งแต่แรกเริ่ม และสิ่งที่ไม่เหมือนบอยแบนด์ยุคเก่าคือพวกเขาไม่มีนักร้องนำหรือสมาชิกที่รับบทเด่นที่สุดของวง และถึงแม้ RM ที่พูดภาษาอังกฤษได้คล่องจะรับหน้าที่เป็นคนที่คอยตอบคำถามต่างๆของวง แต่มันก็ไม่จำเป็นว่าเขาจะต้องรับบทเป็นสมาชิกที่เด่นที่สุดของวง*

และตามที่คุณ Jon Caramanica ได้กล่าวในรีวิวของเขาว่า BTS แบ่งปันนความโดดเด่นร่วมกันบนเวที เช่น ในเพลง “The Truth Untold” พวกเขาก็แสดงถึงเสียงร้องประสานที่อ่อนหวานและกลมกลืนกันผ่านสมาชิกที่รับหน้าที่ด้านการร้องทั้ง 4 คนได้แก่ จีมิน จิน จองกุก และวี ตามมาด้วยเพลง “Outro: Tear” ที่แสดงถึงความสามารถในการแรปที่หลากหลายของแรปเปอร์ทั้งสามคน (เจโฮป, RM และชูก้า) นอกจากนั้น เมมเบอร์ยังได้แสดงความสามารถที่ตนเองถนัดผ่านทางโซโล่สเตจอีกด้วย

*บทความใช้คำว่า leader และ lead member ที่ไม่ได้หมายความว่า หัวหน้าวง แต่หมายถึงสมาชิกคนที่เด่นที่สุดของวงหรือนักร้องนำ
_________________________

4. ดนตรีของพวกเขาส่งผ่านความรู้สึกที่ “แท้จริง” ถึงแฟนๆ

BTS ทำมากกว่าแค่ดึงดูดผู้คนด้วยลุคและแฟชั่น หรือเสื้อผ้าหน้าผมที่ดึงดูดสายตา นอกจากภาพลักษณ์ที่ดูดีและงานเพลงที่น่าติดตามแล้ว พวกเขายังพูดถึงปัญหาสำคัญๆ เช่น สุขภาพจิตและการรักตัวเอง พวกเขาตระหนักถึงความสำคัญของการทำหน้าที่เป็นแบบอย่างให้กับคนหนุ่มสาวจำนวนมากทั่วโลก ในเประเทศกาหลีใต้...ศิลปินเคป๊อปจะถูกเรียกว่า "ไอดอล" และ BTS ก็ไม่ทำหน้าที่นั้นแบบผิวเผิน

ย้อนกลับไปในเดือนกันยายน 2018 เมื่อ BTS ได้พูดคุยกับแฟนๆกว่า 300 คนโดยมีพิพิธภัณฑ์แกรมมี่เป็นเจ้าภาพ พวกเขาได้พูดคุยถึงหัวข้อต่างๆรวมถึงความรับผิดชอบในฐานะของศิลปิน จองกุกกล่าวไว้ว่า “ความสำเร็จเหล่านี้ทำให้พวกเราตระหนักถึงความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้น เราควรจะปฏิบัติตัวกันอย่างไร ควรจะทำเพลงกันแบบไหน มันทำให้พวกเราคิดลึกซึ้งกันมากขึ้นในด้านความรับผิดชอบที่พวกเราควรมีต่อสิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่ รวมถึงเพลงที่พวกเราทำอยู่ด้วย”

พวกเขายังพูดคุยเกี่ยวกับกระบวนการสร้างสรรค์ผลงาน และวิธีการทำงานร่วมกันเป็นทีม รวมถึงการทำงานกับ Bang Si-hyuk ผู้นำแห่ง Big Hit Entertainment ซึ่งเป็นต้นสังกัดของพวกเขา โดย RM กล่าวไว้ว่า “บังพีดีจะพูดเน้นเสมอว่าพวกเราควรร้องเพลงเกี่ยวกับประสบการณ์ของเราเอง ความคิดของเราเอง และความรู้สึกของเราเอง ดังนั้น นี่จึงเป็นหัวใจหลักในการทำงานเพลงทุกครั้งของพวกเรา" RM ยังได้พูดถึงการทำงานร่วมกันของสมาชิกในวงว่า “พวกเราพยายามที่จะมีส่วนร่วมในการทำผลงานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมคิดว่าการมีส่วนร่วมของพวกเรานั้นทำให้เพลงและดนตรีของเรามีความจริงใจมากขึ้น และมันเปลี่ยนเจตคติของพวกเรา ว่าพวกเรามีความใกล้ชิดกับเพลงของพวกเราเพียงใด” 
_________________________

5. BTS นึกถึง ARMY ของพวกเขาในฐานะครอบครัว


คุณจะไม่สามารถพูดถึงการทำลายสถิติที่ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆของ BTS ได้โดยไม่กล่าวถึง ARMY แฟนๆผู้ภักดีของพวกเขา ARMY นั้นย่อมาจาก Representative M.C. For Youth และเมื่อแฟนๆให้การสนับสนุน BTS ไว้อย่างไร BTS ก็สนับสนุนแฟนๆกลับอย่างนั้น สมาชิกของวงรู้วิธีใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเป็นเครื่องมือในการติดต่อกับแฟนๆนับล้านในโลกออนไลน์ และทำให้แฟนๆสามารถเข้าถึงการอัพเดทเรื่องราวในชีวิตของพวกเขาได้อย่างสม่ำเสมอ  

และในขณะที่ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียหลายรายตกอยู่ในความเสี่ยงของการที่ยิ่งอยู่ในโลกโซเชียลมีเดียมากขึ้นเท่าใด ก็จะยิ่งรู้สึกแปลกแยกโดดเดี่ยวมากขึ้นเท่านั้น แต่ไม่ใช่กับ BTS ที่กระจายพลังบวกไปทั่วโลกโซเชียลมีเดีย ซึ่งเหล่าแฟนๆของพวกเขาก็ทำแบบเดียวกันเช่นกัน พวกเขาพูดคุยกันอย่างสนุกสนานในแพลตฟอร์มต่างๆของ BTS อยู่เป็นประจำ เช่น การคอมเม้นใน BTS' YouTube page สิ่งเหล่านี้ทำให้ BTS และแฟนๆได้ร่วมกันสร้างครอบครัวขนาดยักษ์ที่เต็มไปด้วยการสนับสนุนซึ่งกันและกันขึ้นมา
_________________________

การเข้ายึดครองสหรัฐอเมริกาของ BTS นั้นเพิ่งเริ่มต้นขึ้น การประกาศสเตเดียมทัวร์ 2019 ของพวกเขาได้สร้างความตื่นเต้นและแตกตื่นให้กับเหล่าแฟนๆในทวิตเตอร์ ซึ่งแฟนๆส่วนหนึ่งก็สงสัยว่าความรู้สึกตื่นเต้นนี้จะเป็นแบบเดียวกับที่ผู้ปกครองของพวกเขารู้สึก ยามเมื่อ The Beatles มีทัวร์คอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่รึเปล่า? และแฟนๆต่างแสดงความภูมิใจถึงความยิ่งใหญ่ของสถานที่แสดงบางแห่งเช่น Rose Bowl Stadium ใน Pasadena ที่ BTS จะแสดงในวันที่ 4 พฤษภาคมนั้น เป็นสนามฟุตบอลที่มีความจุถึง 90,888 ที่นั่ง และเคยเป็นสถานที่จัดของคอนเสิร์ตของศิลปินระดับตำนานอย่าง Rolling Stones, Beyoncé และ Jay-Z 



ตัวเลขทางสถิตินั้นไม่เคยโกหก ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขจากยอดขายแผ่น ตัวเลขการจากยอดขายบัตรคอนเสิร์ต ตัวเลขจากยอดสตรีม เนื้อเพลงที่สื่อถึงการรู้จักตัวเอง และฐานแฟนคลับอันร้อนแรง สิ่งเหล่านี้กำลังชี้ว่า BTS ได้เริ่มก้าวเข้าสู่ความสำเร็จในการสร้างประวัติศาสตร์ในอเมริกาและทั่วโลก



_________________________



Comments

Popular posts from this blog

[รีวิว] US Stadium Tour @ Soldier Field, Chicago “สภาพอากาศที่เลวร้ายก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้”

[แปล] "A Conversation With BTS" at the Grammy Museum in LA

[แปล] ชูก้า (BTS) พูดถึงอคติอันไม่เป็นธรรมต่อแฟนคลับของไอดอล ในเบื้องหลังการไป UN